Peptide คืออะไร?
Peptide คือโมเลกุลที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่เชื่อมต่อกันด้วยพันธะเปปไทด์ โดยมีขนาดเล็กกว่าโปรตีนแต่ใหญ่กว่ากรดอะมิโนเดี่ยว ในทางการแพทย์ Peptide ถูกนำมาใช้เป็นยาที่มีความจำเพาะสูง เนื่องจากสามารถออกแบบให้ทำงานกับตัวรับ (Receptor) เฉพาะในร่างกายได้
ประเภทของ Peptide ที่ใช้ในทางการแพทย์
- GLP-1 Receptor Agonists: กระตุ้นการหลั่งอินซูลินและลดความหิว
- GIP Receptor Agonists: ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลและเผาผลาญไขมัน
- Dual และ Triple Agonists: ทำงานกับหลายตัวรับพร้อมกัน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
ข้อมูลน่ารู้
Peptide ที่ใช้ในทางการแพทย์ผ่านกระบวนการผลิตที่เข้มงวด และต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านสาธารณสุข
TIRZEPATIDE - ข้อมูลครบถ้วน
TIRZEPATIDE เป็น dual GIP/GLP-1 receptor agonist ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับการรักษาเบาหวานชนิดที่ 2 และการจัดการน้ำหนัก โดยมีกลไกการทำงานที่แตกต่างจากยาในกลุ่มเดียวกัน
กลไกการทำงาน
TIRZEPATIDE ทำงานโดย:
- กระตุ้น GIP Receptor: เพิ่มการหลั่งอินซูลินและลดการสะสมไขมัน
- กระตุ้น GLP-1 Receptor: ลดความอยากอาหาร ชะลอการว่างของกระเพาะ และเพิ่มความรู้สึกอิ่ม
- ปรับปรุงการเผาผลาญ: ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานได้ดีขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ลดน้ำหนักได้อย่างมีนัยสำคัญ (โดยเฉลี่ย 18-21% ของน้ำหนักตัว)
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี
- ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ปรับปรุงระดับไขมันในเลือด
ขนาดการใช้
TIRZEPATIDE มีขนาดการใช้ที่แตกต่างกัน เริ่มจากขนาดต่ำและค่อยๆ เพิ่มขึ้น:
- 2.5 mg: ขนาดเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ครั้งแรก
- 5 mg: ขนาดบำรุงรักษาทั่วไป
- 7.5 mg - 15 mg: สำหรับผู้ที่ต้องการผลการรักษาที่มากขึ้น
ข้อควรระวัง
การเพิ่มขนาดยาควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีระยะห่างอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายปรับตัว และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงทางระบบทางเดินอาหาร
RETATRUTIDE - นวัตกรรมใหม่
RETATRUTIDE เป็น triple receptor agonist ที่มีกลไกการทำงานที่ซับซ้อนกว่า โดยกระตุ้นทั้ง GIP, GLP-1 และ Glucagon receptors พร้อมกัน ซึ่งให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง
ความแตกต่างจาก TIRZEPATIDE
RETATRUTIDE แตกต่างจาก TIRZEPATIDE ตรงที่:
- กระตุ้น 3 ตัวรับ: เพิ่ม Glucagon receptor ที่ช่วยเผาผลาญไขมัน
- ประสิทธิภาพสูงกว่า: การศึกษาพบว่าสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่า (โดยเฉลี่ย 20-24%)
- ลดไขมันในตับ: มีผลดีต่อผู้ที่มีภาวะตับอักเสบจากไขมัน
การศึกษาวิจัย
จากการศึกษาทางคลินิก Phase 2 พบว่า:
- ผู้ที่ใช้ RETATRUTIDE 12 mg ลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 24.2% ใน 48 สัปดาห์
- ปรับปรุงระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่ายาเดี่ยว
- ลดรอบเอวและไขมันในช่องท้องได้มาก
- ปรับปรุงความดันโลหิตและระดับไขมันในเลือด
ขนาดการใช้
- 4 mg: ขนาดเริ่มต้น
- 8 mg: ขนาดมาตรฐาน
- 12 mg: ขนาดสูงสุด สำหรับผู้ที่ต้องการผลการรักษาสูงสุด
สถานะปัจจุบัน
RETATRUTIDE อยู่ระหว่างการศึกษาทางคลินิก Phase 3 และคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการศึกษาเบื้องต้นแสดงผลลัพธ์ที่น่าสนใจมาก
วิธีการใช้และเก็บรักษา
การฉีด Peptide
Peptide ทั้ง TIRZEPATIDE และ RETATRUTIDE ใช้วิธีฉีดใต้ผิวหนัง (Subcutaneous injection) โดยมีขั้นตอนดังนี้:
- เตรียมอุปกรณ์: เข็มฉีด, แอลกอฮอล์แพดสำหรับเช็ด, ผ้าสะอาด
- เลือกตำแหน่ง: บริเวณหน้าท้อง, ต้นขา หรือแขนด้านบน (สลับตำแหน่งทุกครั้ง)
- ทำความสะอาด: เช็ดบริเวณที่จะฉีดด้วยแอลกอฮอล์
- ฉีดยา: หยิกผิวหนังเบาๆ แล้วฉีดยาเข้าไปในมุม 45-90 องศา
- ดูแลหลังฉีด: เช็ดทำความสะอาดโดยแอลกอฮอล์แพดเบาๆ ไม่ต้องนวด
ความถี่ในการใช้
- ฉีดครั้งละ 1 ครั้งต่อสัปดาห์
- ควรฉีดในวันและเวลาเดียวกันทุกสัปดาห์
- หากลืมฉีด สามารถฉีดได้ภายใน 4 วัน หลังจากนั้นให้ข้ามไปยังวันปกติ
การเก็บรักษา
วิธีเก็บรักษาที่ถูกต้อง
ก่อนเปิดใช้: เก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2-8°C ห้ามแช่แข็ง
หลังเปิดใช้: สามารถเก็บในตู้เย็นหรือที่อุณหภูมิห้องไม่เกิน 30°C
ระยะเวลา: ใช้ภายใน 28 วันหลังเปิดขวด
การพกพา: หากต้องเดินทาง ใช้กระเป๋าเก็บความเย็น
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- อย่าแช่แข็งยา
- อย่าใช้ยาที่เปลี่ยนสี มีตะกอน หรือขุ่น
- อย่าปล่อยยาตากแดด
- อย่าเขย่ายาแรง
ผลข้างเคียงและข้อควรระวัง
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
ผลข้างเคียงส่วนใหญ่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร และมักจะลดลงหลังจากใช้ไปสักระยะ:
- คลื่นไส้: พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในสัปดาห์แรก
- อาเจียน: มักเกิดเมื่อเพิ่งเริ่มใช้หรือเพิ่มขนาด
- ท้องเสีย: อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงแรก
- ท้องผูก: บางคนอาจมีอาการท้องผูก
- ปวดท้อง: ปวดท้องเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ปวดศีรษะ: อาจเกิดขึ้นได้ในบางราย
- เบื่อาหาร: รู้สึกไม่อยากทานอาหาร
วิธีจัดการกับผลข้างเคียง
- ทานอาหารเล็กน้อยบ่อยครั้ง: แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆ 5-6 มื้อต่อวัน
- หลีกเลี่ยงอาหารมัน เผ็ด: อาหารที่มีไขมันสูงอาจทำให้คลื่นไส้มากขึ้น
- ดื่มน้ำเพียงพอ: ป้องกันการขาดน้ำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ: ช่วยลดอาการปวดศีรษะ
อาการที่ต้องพบแพทย์ทันที
หากมีอาการดังต่อไปนี้ ให้หยุดใช้ยาและพบแพทย์ทันที:
- ปวดท้องรุนแรงที่ไม่หาย
- อาเจียนอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถกินอาหารหรือดื่มน้ำได้
- อาการแพ้รุนแรง เช่น ผื่นคัน บวมที่ใบหน้าหรือลำคอ หายใจลำบาก
- อาการตับอักเสบ เช่น ตัวเหลือง ปัสสาวะเข้มข้น
- อาการของตับอ่อนอักเสบ เช่น ปวดท้องรุนแรงร้าวไปหลัง
ข้อห้ามใช้
ไม่ควรใช้ Peptide หากมีประวัติหรือภาวะดังต่อไปนี้:
- มีประวัติมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด medullary
- มีประวัติครอบครัวเป็น Multiple Endocrine Neoplasia syndrome type 2 (MEN 2)
- มีประวัติตับอ่อนอักเสบ
- ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- แพ้ส่วนประกอบของยา
ใครควรและไม่ควรใช้
กลุ่มที่เหมาะสมกับการใช้ Peptide
- ผู้ที่มี BMI มากกว่า 27 และมีโรคแทรกซ้อน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่มี BMI มากกว่า 30
- ผู้ที่เคยลองวิธีลดน้ำหนักอื่นๆ แล้วไม่ประสบความสำเร็จ
- ผู้ที่มีโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และต้องการควบคุมน้ำตาล
- ผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย
กลุ่มที่ไม่ควรใช้
- เด็กและวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี
- ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวหลายอย่าง
- ผู้ที่มีปัญหาทางจิตเวช เช่น ภาวะซึมเศร้ารุนแรง หรือความคิดทำร้ายตนเอง
- ผู้ที่มีโรคทางเดินอาหารเรื้อรัง
- ผู้ที่มีไตวายหรือตับวาย
การประเมินก่อนเริ่มการรักษา
ก่อนเริ่มใช้ Peptide ควรได้รับการประเมิน ซึ่งรวมถึง:
- ประวัติสุขภาพและโรคประจำตัว
- การตรวจร่างกาย และวัด BMI
- ตรวจเลือดพื้นฐาน (ระดับน้ำตาล, ไขมัน, การทำงานของตับและไต)
- ประเมินพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย
- กำหนดเป้าหมายการลดน้ำหนักที่เหมาะสม
การติดตามระหว่างการรักษา
ในระหว่างการใช้ Peptide ควรมีการติดตามผล:
- สัปดาห์แรก: ติดตามผลข้างเคียง
- เดือนแรก: ประเมินน้ำหนักและอาการ
- ทุก 3 เดือน: ตรวจเลือด วัดน้ำหนักและรอบเอว
- ทุก 6 เดือน: ประเมินผลการรักษาโดยรวม
เปรียบเทียบ Peptide แต่ละชนิด
| หัวข้อเปรียบเทียบ | TIRZEPATIDE | RETATRUTIDE |
|---|---|---|
| กลไกการทำงาน | Dual agonist (GIP + GLP-1) | Triple agonist (GIP + GLP-1 + Glucagon) |
| การลดน้ำหนัก | 15-20% ของน้ำหนักตัว | 20-24% ของน้ำหนักตัว |
| การควบคุมน้ำตาล | ดีมาก | ดีมาก |
| ผลข้างเคียง | ปานกลาง | ปานกลางถึงมาก |
| ความถี่การฉีด | 1 ครั้ง/สัปดาห์ | 1 ครั้ง/สัปดาห์ |
| สถานะการอนุมัติ | อนุมัติโดย FDA | อยู่ในระหว่างการศึกษา Phase 3 |
| เหมาะสำหรับ | ผู้ต้องการลดน้ำหนักและควบคุมน้ำตาล | ผู้ที่ต้องการผลการลดน้ำหนักสูงสุด |
การเลือกใช้ Peptide ที่เหมาะสม
การเลือกใช้ Peptide ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง:
- เป้าหมายการรักษา: ลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำตาล หรือทั้งสองอย่าง
- ประสบการณ์: ผู้เริ่มต้นควรเริ่มจาก TIRZEPATIDE ขนาดต่ำ
- การตอบสนอง: หากไม่ได้ผลกับ TIRZEPATIDE อาจพิจารณา RETATRUTIDE
- งบประมาณ: ค่าใช้จ่ายและความคุ้มค่า
- ผลข้างเคียง: ความสามารถในการรับมือกับผลข้างเคียง
คำแนะนำจากเภสัชกร
การใช้ Peptide เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการจัดการน้ำหนัก ควรใช้ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และการพักผ่อนที่เพียงพอ